Sunday, June 30, 2013

การใช้วินช์ และอุปกรณ์ ร่วม Winch and Accessories

รอกไฟฟ้า ( Winch ) ในที่นี้ ขอกล่าวโดย รวม ๆ ไม่ระบุยี่ห้อนะครับ



เริ่มต้นโดยการ มารู้จัก Winch กันเสียหน่อย ประกอบด้วย
1. ฐาน Winch 
2. Motor ไฟฟ้า
3. ชุดควบคุมการทำงาน Solenoids 
4. สลิง และ Drum เก็บสลิง
5. ขอเกี่ยงสลิง 
6. Roller
7. ชุดเฟืองทด
8. Remote Control
9. ชุดLock และ Free Lock
10. ปลั๊กเสียบ Remote Control


- ก่อนจะเสียบสาย Control ควรจะผูกสายไฟไว้กับกันชนหน้ารถเพื่อป้องกันสายไฟไปพันกันและบาดสายขาด


- ลักษณะการดึงของ Winch ขณะทำงาน รถจะวิ่งไปในแนวดึงของสลิง เราไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางได้มากนัก หรือในบางสถานการณ์จะเปลี่ยนทิศทางไม่ได้เลย


- การทำมุมดึงด้านตั้งของ Winch จะมีผลต่อการใช้งานในการดึงให้มีประสิทธิภาพที่ต่างกัน เช่น ดึงในแนวนอนขนานกับพื้นขณะรถจมโคลนลึก หน้ายางจะเกิดแรงต้านกับดินด้านหน้า ดึงรถเท่าไรก็ไม่ขึ้น ให้เปลี่ยนมุมดึงเป็นแนวเดียวกับรถถ้าสามารถทำได้ แต่ถ้าทำไม่ได้ให้ใช้วิธีเปลี่ยนมุมดึงที่คานแข็งเพลาหน้า ซึ่ง Jeep มีอยู่แล้วเพื่อลดแรงต้านที่หน้าดิน



- ไม่ควรใช้ Winch 2 ตัวดึงโดยตรง ถ้า Winch ตัวใดตัวหนึ่งมีแรงมากกว่าก็จะดึง Winch ที่มีกำลังน้อยกว่าพังเสียหายได้ ถ้าจะใช้ Winch กับ Winch ดึงกันให้เกี่ยว Winch ไว้ระหว่างตะขอหน้าของรถแต่ละคัน


- ไม่ควรใช้ Winch ลากรถโดยตรงโดยไม่ใช้การทำงานของ Motor เฟืองทดต่างๆจะเสียหายได้
- การเปลี่ยนทิศทางการดึงตามแนวที่เราต้องการ เราจะใช้สลิงหรือเชือกลาก เชือกกระตุกก็ได้


- การดึงรถขึ้นจากเนินที่สายสลิงจะเสียดสีกับพื้นดิน ควรมีลูกหินหรือไม้มารองรับไว้เพื่อป้องกันความเสียหายที่สายสลิงเสียดสีกับดินหรือหิน


- ควรมีผ้าคุมสลิงขณะดึง ถ้าสลิงขาดจะช่วยลดแรงดีดลงได้ในบางโอกาส ถ้าสลิงแตกแต่จำเป็นต้องใช้ ควรใช้วิธีเปิดฝากระโปรงหน้ารถขณะดึงและให้คนที่อยู่ในพื้นที่หลบหลังต้นไม้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย
- ควรมีเชือกคล้องต้นไม้ เพื่อกันสลิงกัดผิวต้นไม้ อาจทำให้ต้นขาด หรือเสียดสีกับสลิงได้ และที่สำคัญ เพื่อไม่เป็นการทำลายธรรมชาติครับ

- การดึงรถถ้ารถพลิกคว่ำ แต่หงายท้อง? ให้ใช้สลิงพันรอบรถ ถ้าไม่กลัวรถเสียหายแต่ถ้ากลัวเสียหายก็ให้ดึงที่ละด้าน

- การใช้รอกทดกับ Winch เพื่อเพิ่มกำลังของ Winch


- การใช้ Winch กับแผ่นรองพื้นเพื่อลดแรงต้านที่หน้าล้อ ถ้าจมบ่อโคลนลึกหรือจมบ่อทราย (ทรายเป็นตัวอันตรายต่อช่วงล่างของรถเป็นอย่างมาก)
ไฮลิฟแจ็ค อุปกรณ์เสริมครับ (แม่แรงสำหรับรถยกสูง และสามารถใช้เป็นวิ้นช์มือโยกได้ด้วย แต่เหนื่อยสุด ๆ ครับ)

สมควรมีเป็นอย่างยิ่งครับ จะได้ไม่ต้องหาที่มัดเชือก หรือคล้องเชือกยากครับ

บทความและภาพ จาก Thailand Offroad.com






วิธีการใช้ ที่เติมลมยาง ในปั๋มน้ำมัน

โพสนี้สำหรับ สาว ๆ และหนุ่ม ๆ มือใหม่หัดขับ ไม่จับ ไม่เคยเติมลมยางให้ตัวเองมาก่อน  จึงขอแสดง วีดีโอตัวอย่างวิธี ใช้เครื่องเติมลมยาง ตามปั๊มน้ำมัน มาให้ดูครับ ว่าทำกันอย่างไร (เผื่อฉุกเฉิน)

ขอขอบคุณเจ้าของ วีดีโอ คุณหอมหัวใหญ่ ครับ

วิธีใช้เข็มทิศ เมื่อ....

เข็มทิศ  คือเครื่องมือสำหรับใช้หาทิศทาง มีเข็มแม่เหล็กที่แกว่งไกวได้อิสระในแนวนอนทอดตัวในแนวเหนือ-ใต้ ตามแรงดึงดูดของแม่เหล็กโลกและที่หน้าปัดมีส่วนแบ่งสำหรับหาทิศทางโดยรอบ เข็มทิศจึงมีปลายชี้ไปทางทิศเหนือเสมอ (อักษร N หรือ น) เมื่อทราบทิศเหนือแล้วก็ย่อมหาทิศอื่นได้โดยหันหน้าไปทางทิศเหนือ ด้านขวามือเป็นทิศตะวันออก ด้านซ้ายมือเป็นทิศตะวันตก ด้านหลังเป็นทิศใต้ การบอกทิศทางในแผนที่โดยทั่วไป คือการบอกเป็นทิศที่สำคัญ 4 ทิศ คือทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตก หรืออาจจะบอกละเอียดเป็น 8,16 หรือ 32 ทิศก็ได้



 มองเห็นลูกศรแดงกับดำไหมครับ เราเรียกมันว่าเข็มบอกทิศ ในบางแบบของ เข็มทิศ จะเป็นสีแดงกับสีขาว แต่จุดสำคัญอยู่ที่ว่าลูกศรแดงนั้นจะชี้ไปที่ขั้วแม่เหล็กโลกทางเหนือ นี่คือพื้นฐานอย่างแรกที่คุณต้องรู้ .
ถ้าคุณไม่ต้องการที่จะเดินไปทางเหนือ แต่อยากจะไปทิศอื่น ก็ให้วางเฮ้าซิ่งของ เข็มทิศ บน เข็มทิศ ซึ่งจะมีสเกลอยู่ อาจจะเป็น 0 ถึง 360 หรือ 0 ถึง 400 เป็นหน่วยองศาอซิมุส (azimuth) หรือบางที่ก็เรียกว่าแบริ่ง (bearing) จะเห็นตัวอักษรแยกทิศ N,S,W,E แทนทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก ตามลำดับ ถ้าคุณต้องการที่จะไปทางทิศเหนือ อยากไปในทิศระหว่างสองทิศใด ๆ เราก็เรียกรวมกัน เช่น ตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นต้น ดูในภาพ ที่จะไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เมื่อเจอแล้วก็ให้หมุนจนทิศนั้นตรงกับลูกศรใหญ่ชี้ทางเดิน เสร็จแล้วก็วางบนมือ หมุนไปมาจนเข็มสีแดงชี้ตรงทิศเหนือ 
ซึ่งในช่วงนี้สำคัญมาก ต้องระวังไม่ให้ เข็มทิศ เคลื่อน แต่เป็นตัวเราที่หมุนเท่านั้น ปล่อยให้เข็มชี้ทิศเป็นอิสระ มันจะหมุนตามไปเอง มีมือใหม่พอสมควรที่เดินตรงข้ามเพราะเข็มอยู่ในส่วน ที่ชี้เหนือใต้ แต่ว่าเข็มสีแดงชี้ไปทางใต้ ทำให้เข้าใจผิด 
ปัญหาอีกอย่างที่อาจพบคือผลของแม่เหล็กที่บริเวณนั้น ถ้ามีวัสดุที่เป็นเหล็กหรือคล้ายคลึงกัน อาจจะมีผลต่อการเคลื่อนตัวของลูกศรได้นะครับ แม้แต่ตัวแม็กเย็บกระดาษยังมีผลได้เลย ดังนั้นต้องดูให้ทั่ว ๆ ว่าไม่มีอะไรที่จะมาส่งผลให้เกิดการเพี้ยนได้อยู่ใกล้ ๆ บางทีก็มาจากพื้นดินบริเวณนั้น ซึ่งอาจจะมีได้แต่โอกาสน้อยมาก เว้นแต่ไปอยู่เหนือสายแร่หรือแถวเหมืองนั่นแหละ .
ทีนี้พอแน่ใจว่าได้ทิศถูกต้องก็เดินไปตามที่ลูกศรชี้ทางเดินพุ่งไปนั้นแหละ และเวลาเดิน ๆ ไป ก็ควรดูว่าเราเดินออกนอกทิศหรือไม่ โดยหมั่นสังเกตจาก เข็มทิศ บ่อย ๆ ถ้าจะให้ดีให้มองจุดหมายเอาไว้เป็นระยะ ๆ แล้วก็มุ่งไปที่นั่นโดยวิธีต่าง ๆ ตรงนี้อาจจะเดินคดเคี้ยวไปมาก็ได้ เพราะสภาพพื้นที่อาจไม่อำนวย พอถึงเป้าหมายที่เราเล็งไว้แล้วค่อยตั้งทิศใหม่ไปเรื่อย ๆ ถ้ามีแผนที่ด้วยก็เทียบกับแผนที่ไปเรื่อย ๆ
เทคนิคนี้เหมาะสมเมื่อคุณไปไหนโดยไม่มีแผนที่ ไม่รู้ด้วยว่าอยู่ตรงไหน แต่รู้ว่ามีถนน สายน้ำ หรือจุดที่คุณรู้ว่า ถ้าไปถึงก็จะไม่หลง เพียงแต่ไปให้ถูกทิศเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าหลงป่าในเทรลเขาใหญ่ ซึ่งพบกันบ่อย ๆ โดยเฉพาะในเทรล 6 ถ้ารู้ทิศ ย่องรู้ว่าเดินไปเรื่อย ๆ จะออกถนน ไม่ใช่เข้าป่าลึกไปอีก ก็ตั้งทิศแล้วเดินไปตามทิศเป็นช่วง ๆ อย่างไรก็ตาม วธีนี้ก็ช่วยได้แค่ส่วนหนึ่ง อย่างน้อยก็ไม่ทำให้คุณ ๆ เดินวนเป็นวงกลมล่ะน่า แต่ถ้าให้ดีต้องใช้ควบคู่กับแผนที่ที่ดีครับ ถ้าคุณต้องไปเดินป่าที่ ๆ แปลกใหม่จริง ๆ ควรจะพกพาแผนที่ของกรมแผนที่ทหารไปด้วย และเมื่อใช้คู่กันระหว่างแผนที่กับ เข็มทิศ ก็ไม่ต้องกลัวหลงแล้วละครับ

วีดีโอตัวอย่างการใช้ ภาคภาษาอังกฤษครับ


บทความจาก Trackingthai.com